ชุดชั้นใน บราสวย ๆ นี่ถือเป็นไอเท็มตัวเก่ง ที่ช่วยเสริมความมั่นใจ ช่วยซัพพอร์ทให้รูปร่างและหน้าอกดูสวย กลมกลึง ไม่หย่อนคล้อย แต่จะทำยังไงล่ะ ถ้าวันดีคืนดี ชุดชั้นในของเรามันดันเสื่อมสภาพไป เสียทรง ไม่สามารถทำหน้าที่ให้ดีต่อไปได้อีกแล้ว ฉะนั้นเรามาดูวิธีแก้ไขกันหน่อย เริ่มตั้งแต่วิธีซักผ้า ตากผ้า ไปจนถึงวิธีพับผ้ากันไปเลย ทีนี้แหละ จะได้มีชุดชั้นในดี ๆ สภาพสวย ๆ ใส่ไปนาน ๆ แล้ว! 

pic_1

ข้อที่ต้องรู้ก่อนลงมือซักชุดชั้นใน!

แยกซักจากผ้าชิ้นอื่น ๆ : ควรแยกเสื้อใน กางเกงใน ออกจากผ้าชิ้นอื่น ๆ นอกจากเหตุผลเรื่องความสะอาดแล้ว ยังช่วยป้องกันเรื่องสีตกใส่ด้วยนะ โดยเฉพาะถ้าชุดชั้นในของเราสีอ่อน มีโอกาสพลาดท่า สีตกเป็นด่าง ๆ แล้วเห็นได้ชัดเลยทีนี้
ติดตะขอบราก่อนซัก : ที่ต้องทำยังงี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ตะขอบราไปเกี่ยวกับเนื้อผ้า ทั้งของตัวเอง และชิ้นอื่น ๆ 
ควรซักด้วยมือ : จริง ๆ แล้วการซักด้วยมือเป็นการถนอมเนื้อผ้าได้ดีที่สุด นั่นก็เพราะว่าเครื่องซักผ้า จะมีแรงปั่นเหวี่ยงที่ค่อนข้างสูง ทำให้เนื้อผ้า โดยเฉพาะผ้าลูกไม้ ผ้าซาติน ผ้าไหม ขนนก จิเวลรีต่าง ๆ เกิดความเสียหายได้
ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ : ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นไปเลย เพราะน้ำอุ่นจะไปทำให้ผ้าเสียทรงได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ไม่ใช้น้ำยาซักผ้า/ผงซักฟอกที่กัดกร่อน : น้ำยาซักผ้าบางชนิดมีผลทำให้เสื้อในย้วยเร็วด้วยนะ และแถมถ้าล้างออกไม่สะอาดก็อาจไปทำอันตรายกับผิวหนังของเราได้อีกด้วย มีแต่เสียกับเสีย
หลีกเลี่ยงการใช้แปรงถู : เพราะแปรงจะทำให้ชุดชั้นในเป็นขุยง่าย ดูเก่า แถมยังทำให้เสียทรงด้วยนะ
อย่าลืมดูป้ายสัญลักษณ์ : เพราะแต่ละตัวต้องการการซักผ้า ตากผ้า พับผ้าจัดเก็บ ที่เฉพาะตัวค่ะ จะใช้วิธีเดียวกันกับผ้าทุกชิ้นไม่ได้ โดยเขาจะมีป้ายสัญลักษณ์บอกไว้ที่ตัวผ้า


10_copy

สัญลักษณ์บนเสื้อผ้า

สัญลักษณ์บนเสื้อผ้า

วิธีซักชุดชั้นในด้วยมือ

อย่างที่บอกเลยค่ะว่าการซักชุดชั้นในด้วยมือนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด เราเลยขอมาแจกแจงขั้นตอนกันสักนิด เพื่อให้การซักที่ดีที่สุดของเราดียิ่งกว่าดี ไม่มีผิดพลาด!

แยกเสื้อชั้นในสีออกจากชุดชั้นในขาว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สีตก
ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนและน้ำอุ่น ใช้น้ำยาซักชุดชั้นใน หรือสบู่สูตรอ่อนโยน ผสมน้ำกับน้ำยาให้เข้ากัน
แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ถ้าตัวไหนมีคราบสกปรกเป็นพิเศษ แช่ทิ้งไว้ไปเลย 1 ชั่วโมง
ระหว่างแช่เสื้อชั้นในให้ใช้มือถูตามสายเสื้อและฟองน้ำ จุดอับต่าง ๆ เพื่อขจัดคราบเหงื่อและสิ่งสกปรก
ล้างชุดชั้นในให้สะอาด ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าเสื้อชั้นในจะสะอาดไร้คราบและน้ำยาซักผ้าจริง ๆ
นำชุดชั้นในออกมาจัดทรงให้เข้าที่ วางผึ่งไว้บนผ้าขนหนูแล้วใช้มือกดน้ำออกเบา ๆ
นำไปแขวนตากในที่ที่มีลมพัด ลมโกรก แต่ไม่ควรโดนแดดแรง ๆ เพราะจะทำให้เนื้อผ้าเก่าเร็ว สีซีดจางง่าย 

10_copy

วิธีซักชุดชั้นในด้วยเครื่องซักผ้า

ติดตะขอเสื้อชั้นในทุกตัวก่อนจะนำไปซัก
นำชุดชั้นในใส่ลงในถุงตาข่ายสำหรับซักชุดชั้นในแล้วรูดซิปปิดให้สนิท ป้องกันไม่ให้ชุดชั้นในไปพันกับเสื้อผ้าชนิดอื่น ๆ
อย่าลืมแยกผ้าสี ผ้าขาว รวมถึงควรซักแค่กับผ้าที่มีน้ำหนักเบา ไม่งั้นผ้าที่มีน้ำหนักมากเกินไปอาจทำร้ายชุดชั้นในของเราได้
ปรับเครื่องซักผ้าให้ทำงานในโหมดอ่อนโยน ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ พร้อมใส่น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนลงไป และห้ามปั่นแห้งชุดชั้นในเด็ดขาด
เมื่อเสร็จแล้ว ให้นำชุดชั้นในออกมาจัดทรงให้เป็นระเบียบ ถ้าชุดชั้นในเปียกมาก สามารถนำไปวางไว้บนผ้าขนหนูแล้วกดซับน้ำก่อน
นำไปตาก โดยแขวนสายเสื้อในไว้กับไม้แขวนเสื้อทั้งสองข้าง 

11_copy

วิธีตากชุดชั้นใน

นำชุดชั้นในออกมาจัดทรงให้เข้าที่ จัดฟองน้ำ จัดสายเสื้อใน ไม่ให้พับ หรือม้วน 
จากนั้นให้วางผึ่งไว้บนผ้าขนหนูแล้วใช้มือกดน้ำออกเบา ๆ ไม่ควรบิดเสื้อในแรง ๆ เพราะจะทำให้เสียทรง
แขวนสายเสื้อในไว้กับไม้แขวนเสื้อทั้งสองข้าง
นำไปแขวนตากในที่ที่มีลมพัด ลมโกรก ไม่ควรโดนแดดแรง เพราะจะทำให้สีซีดจาง
ตากจนแห้งสนิท เพื่อป้องกันเชื้อรา ก่อนเก็บเข้าที่อย่าลืมเช็กว่าฟองน้ำข้างในแห้งสนิทดีแล้วหรือไม่
นำเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย 

12_copy

การจัดเก็บชุดชั้นใน

มาถึงขั้นตอนสุดท้าย หลังจากตากผ้าเรียบร้อยแล้ว เราก็จะมาสอนพับผ้ากัน โดยวิธีที่เราเลือกมาในวันนี้เป็นวิธีของคุณมาริเอะ คนโด หรือทริค "KonMari Method" มีประโยชน์และทำได้จริง ช่วยประหยัดพื้นที่ และทำให้เราเก็บเสื้อผ้าได้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น!

เสื้อชั้นใน

ติดตะขอให้เรียบร้อย
พับสายเสื้อชั้นในลงมา
เก็บใส่ตู้ให้เรียบร้อย โดยวางซ้อนกัน ให้มองเห็นทุกชิ้น 
กางเกงชั้นใน

พับครึ่งลงมาในแนวนอน
พับเก็บด้านข้างทั้ง 2 ข้าง
ม้วนเก็บให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ
วางให้เป็นระเบียบ มองเห็นได้ทุกชิ้น 

14_copy